ถึงแม้ยังไม่ใช่ฟอร์มที่ยอดเยี่ยม แต่ก็ถือว่าดีพอทำให้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล

คว้าชัยชนะต่อเนื่องในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังเปิดรัง แอนฟิลด์ พิชิต เรนเจอร์ส นิ่มๆ 2-0 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา และนี่คือผลสอบของลูกทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ แต่ละคนในแมตช์นี้ที่มาในระบบ 4-2-3-1 ซึ่งฟอร์มน่าพอใจหลายคนเลยทีเดียวเป็นเกมที่แทบไม่ต้องออกแรง แต่ก็มีจังหวะเซฟลูกยิงของ อันโตนิโอ โคลัค ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ทำให้เก็บคลีนชีตได้

ถือเป็นเกมที่กลับมาเล่นได้น่าประทับใจ โดยยิงฟรีคิกสุดสวยให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 7 ส่วนเกมรับก็ทำได้โอเค แม้ไม่ได้เจองานหนักมาก มีการแท็กเกิ้ลที่แข็งแกร่งเกมที่ 3 ของรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก – ลิเวอร์พูล เปิดบ้านอัด เรนเจอร์ส ไปแบบไม่ระบมหัวแม่ตีนสักเท่าไหร่.ว่าแล้วมีเรื่องอยากจะบอก1. เจอร์เก้น คล็อปป์ ปรับสูตรการเล่นใหม่ แล้วจัดตัวแบบ ‘เอาตาย’ เลยนะครับ คือ 4-4-2 ด้วยหักหอกอย่าง ดาร์วิน นูนเญซ กับ ดิโอโก้ โชต้า ขนาบข้างด้วย โม ซาล่าห์ กับ ลุยส์ ดิอาซโดยเฉพาะในครึ่งแรกที่มีโอกาสสับไกแบบเหน่งๆ ถึง 4 ครั้ง แถมตรงกรอบทั้ง 4 ครั้งจนคนพากย์ต้องเอ่ยปากชื่นชมนายทวารวัยดึกของ เรนเจอร์สแต่ผู้ชมทางบ้านอย่างผมกลับเห็นว่ากองหน้าชาวอุรุกวัยยิงได้ไม่คมพอซะมากกว่า

เพราะทั้ง 4 ครั้งที่ได้ยิง มันตรงตัว (หรือไม่หนีมือ) ผู้รักษาประตูหมดเลยเข้าใจว่าน่าจะกระชากความมั่นใจ

กลับมาได้เยอะ หรือไม่บางทีก็อาจจะติดแอ๊คมากยิ่งขึ้นแก้ปัญหาเกมรับอะไรหรือไม่ คำตอบคือไม่ เพราะเรนเจอร์ส แทบไม่ได้ทำอะไรให้ลิเวอร์พูลลำบากใจมากนัก แต่การใช้ระบบ 4-4-2 มันคือการส่งตัวรุกลง โดยเฉพาะการเลือก ดีโอโก โชต้า ก่อน บ๊อบบี ฟีร์มีโน ซึ่ง โชต้านั้น ธรรมชาติเป็นกองหน้ามากกว่า เป็นตัวทำเกมรุกในระบบ 4-2-3-1เกมนี้ เจเค

ให้เล่นคู่กับดาร์วินนูนเยสโดยปีกสองข้างดิอาสกับซาลาห์มีมิดฟิลด์คู่กลางคือติอาโก และ เฮนโด เมื่อบุกจะเป็น 4 กองหน้า บวกแบ๊กสองข้างเติมขึ้นมา มีกลางคู่ขยับขึ้น เซนเตอร์สองคนกดถึงกลางสนามเลยทีเดียวอีกทั้งปีกสองข้างและหน้าคู่ สลับตำแหน่งในระหว่างเกมบ้าง คนหนึ่งเข้าใน อีกคนออกข้างนอก เหมือนเกมนี้ เจเค ปรับระบบการเล่นเพื่อบุกและการบุกคือการป้องกันไปในตัวส่วนการได้ประตูจากฟรีคิกสุดสวยของ เทรนต์ และจุดโทษของ ซาลาห์จุดที่น่าสนใจเกมนี้คือการแก้ปัญหาไม่ให้กองหลังรับภาระมากนั่นคือ การไล่เพรสแดนบนและแดนสอง ทุกครั้งเมื่อเสียบอลก็รุมแย่งคืนกลับมา

ทำให้ครองบอลบุกต่อเนื่อง เรนเจอร์ส เองก็ไม่ได้สวนกลับอะไรเลย กองหลังลิเวอร์พูลจึงมีส่วนในการเติมเกมรุกมากกว่าจะมาตั้งรับ แบ๊กสองข้าง รวมทั้ง มาติป ที่เดินเกมรุกในหลายจังหวะจุดนี้จึงทำให้ลิเวอร์พูลเจอปัญหาเกมรับน้อยมากในเกมนี้

ติดตามบทความข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ renova-kg.com